#4 4 Online Business with Google

ทำธุรกิจในรูปแบบ SMEs เป็นแหล่งรองรับการจ้างงานขนาดใหญ่และกระจายอยู่ทั่วประเทศ  สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในตัวสินค้ารวมทั้งยังทำรายได้นำเงินตราต่างประเทศจากการส่งออก และยังสามารถผลิตสินค้า  เป็นแหล่งสร้างเสริมประสบการณ์บริการแก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้เริ่มต้นธุรกิจใหม่หรือนักลงทุนหน้าใหม่ จากธุรกิจเล็ก ๆ และพัฒนาจนเติบโตในที่สุด  ป็นหน่วยผลิตที่สนับสนุนและเชื่อมโยงไปสู่กิจการต่าง ๆ โดยเฉพาะกิจการขนาดใหญ่ ขนาดกลางและหรือกิจการขนาดย่อมด้วยกันเองในรูปแบบของการผลิตเป็นสินค้าวัตถุดิบขั้นต้น ขั้นกลาง ด้วยวิธีการว่าจ้างผลิต หรือการรับช่วงการผลิต

เป็นการบรรยายเกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์ซึ่งมีเทคนิคและวิธีการต่างๆเพื่อให้สื่อที่ทำลงไปเิกดความน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการใช้งานใหม่เพื่อให้ทันต่อยุคปัจบัน เช่น การใช้ google + , google hangout  เนื่องจากคนไทยเป็นประเทศอันดับหนึ่งในภูมิภาค ทำให้มีการค้นหาเป็นจำนวนมากและผู้คนส่วนใหญ่8 ใน 10 ของคนที่ค้นหา  (Search Engine Optimization

ปรากฏตัวด้วยโฆษณาอย่างเดียวไม่ได้

ต้องปรากฏบนแผนที่ google เพื่อให้ชื่อสินค้าอยู่บนแผนที่ google

เข้าไปที่  ฟรี  maps.google.co

ใส่ชื่อสินค้า , ราคา , ตั้งอยู่ที่ไหน

Get  real conversations with your customers

 “ ทำอย่างไรให้ใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น”

พูดคุยกับลูกค้าให้เหมือนจริง โดย Hangouts 

 สามารถเห็นหน้าได้ , คุยได้ , ประชุมกับสาขาต่างๆ    ดึงเอกสารที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ดูพร้อมกันได้ เสนอราคา สินค้า สะดวกรวดเร็ว  (ไม่มีค่าใช้จ่าย)

Cotto ที่นำไปใช้

Google.ไทยแลน โดยใช้ google + Hangouts มาใช้ในการ ประชุมออนไลน์  แชท และแชร์ ได้พร้อมกัน ขอให้มีอินเตอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ ก็สามารถนำมาใช้งานได้

Increase your performance

“การวัตรผลการตลาด รายงานแบบรายละเอียด”

เข้าไปที่เว็บ gnalytics.google.com (ฟรี)

Engage your cutomer Anywhere anyt

“การค้นหาบนมือถือก็เห็นโฆษณาได้”

Go global (AEC)

ชื่อของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์

 เลือกประเทศเพื่อเปรียบเทียบ

ดูปริมาณการค้นหาของแต่ละประเทศในข่าวสารแต่ละปี

4 Online Business with Google

คำศัพท์

1. Google AdWords คือ โฆษณาในรูปแบบ pay per click ข้อดี คือ เสียค่าใช้จ่ายตามจริง เมื่อผู้ใช้บริการค้นหาข้อมูลคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของคุณเท่านั้น และโฆษณาจะปรากฏให้ผู้ชมเห็นตามคีย์เวิร์ด (Keyword) หรือ กลุ่มคำที่คุณเลือกไว้ซึ่งเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

2. cocial media จะเป็นแทกที่ทำให้ผู้บริโภคนึกถึงเรา เพื่อให้พูดถึงเราในแง่ที่ดี

3. Google+ (Google Plus) คือโครงการของ Google ที่มีความพยายามมานานหลังจากมีการออกมายอมรับก่อนหน้านั้นว่า Google ขยับตัวช้าไปในเรื่องนี้แถมยังมีข้อเสนอพิเศษให้กับพนักงานที่สามารถคิดโครงการ Social Networks ให้ออกมาประสบความสำเร็จอีกด้วย

Conversation หมายถึง การสนทนา การคุยกัน, การคบค้าสมาคม, ความสามารถในการสังคมกับคนอื่น,ลักษณะการครองชีพ 

5. Increase หมายถึงการเพิ่มขึ้น,จำนวนที่เพิ่มขึ้น

6. Performance หมายถึง ผลงานที่เกิดจากการกระทำ 

7.Ave. Time on Site หมายถึง เวลาเฉลี่ยที่อยู่บนเว็บไซต์ของเรา

8. Social Media หมายถึง สังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร หรือเขียนเล่า เนื้อหา เรื่องราว ประสบการณ์ บทความ รูปภาพ และวิดีโอ ที่ผู้ใช้เขียนขึ้นเอง ทำขึ้นเอง หรือพบเจอจากสื่ออื่นๆ แล้วนำมาแบ่งปันให้กับผู้อื่นที่อยู่ในเครือข่ายของตน ผ่านทางเว็บไซต์ 

9.การเข้าถึงเว็บ Mobile Site ได้ ซึ่งทาง Google จะใช้ชื่อเรียก Robot ที่จะคอยไต่ไปตามเว็บ Mobile Sites ต่างๆ ว่า “Googlebot-Mobile” ก็ให้เราทำการแก้ไขแล้วก็ยอมให้ไอ้เจ้า Robot ตัวนี้สามารถเข้าถึงเว็บ Mobile Site ของเราได้

10. AEC ย่อมาจาก ASEAN  Economic  Community หรือประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน เป็นเป้าหมายสำหรับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของสมาคมประชาชาติ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน (Association  of  Southeast  Asia n  Nations: ASE AN ) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 10 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ทั้งนี้ อาเซียน มีเป้าหมายที่จะให้การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจบรรลุผล

11.Go-Global คือซอร์ฟแวร์คลาวด์ ประกอบด้วยซอร์ฟแวร์สำหรับแม่ข่าย และซอร์ฟแวร์ลูกข่าย

12.โปรแกรม Google Engage นำเสนอการอบรมและการสนับสนุนที่คุณจำเป็นต้องใช้เพื่อช่วยให้ลูกค้าของคุณได้รับประโยชน์จาก Google AdWords และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับ:

• ผู้ดูแลเว็บและนักพัฒนาเว็บ
• เอเจนซี่ด้านการตลาดและการโฆษณาบนโลกดิจิทัล
• บุคคลทั่วไปหรือบริษัทที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กประสบความสำเร็จทางออนไลน์

โดยการพัฒนาทักษะที่จำเป็นและความรู้ทางด้านออนไลน์ของคุณเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Google คุณจะเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า และสามารถทำประโยชน์ได้มากขึ้นสำหรับลูกค้าที่มีอยู่ของคุณ การเข้าร่วมโปรแกรมนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย และใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการสมัครออนไลน์ ลงทะเบียนวันนี้เพื่อสร้างธุรกิจของคุณให้เติบโตด้วย Google

16. increase ความหมาย แลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้ สาระ เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับ increase กับสนุก! ความรู้ แหล่งความรู้ของคนไทย เพื่อคนไทย และสังคมไทย

  

17.Google Analytics หมายถึง ตัวเก็บสถิติเกี่ยวกับผู้เข้าชมเว็บไซต์ พฤติกรรมของคนที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซด์ รวมทั้งติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญการโฆษณา 

18Content คือ เนื้อหาภายในเว็บไซต์ 

19 Pagerank (PR) หมายถึง ค่าที่ทาง google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ของเรา ซึ่งมีตั้งแต่ระดับ 1-10 ยิ่งมีค่ามากยิ่งแสดงว่า google ให้ความสำคัญมาก ค่านี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพของเว็บ และคุณภาพของ Link ที่เข้ามาหาเว็บ 

20 Traffic หมายถึง ปริมาณผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา ที่ทำ SEO ก็เพื่อเพิ่มตรงนี้ละ

Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จ

   1.  สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

 สาเหตุที่ทำให้ E-commerce ในประเทศไทยไม่สอบความสำเร็จนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุโดยสามารถแบ่งสาเดตุได้ดังนี้

1.             การนำเสนอข้อมูลเว็บไซต์เพราะเว็บไซต์ส่วนใหญ่มักขาดการนำเสนอรายละเอียดของสินค้าที่ดี เพราะรายละเอียดของสินค้าถือเป็นปัจจัยหลักของของเว็บไซต์ขายของเนื่องจากเป็นส่วนที่บอกรายเกี่ยวกับตัวสินค้า ทั้งรูปร่าง การใช้งาน หรือแม้แต่วัสดุที่ใช้ทำ ในบางเว็บนั้นใส่รายละเอียดของสินค้าน้อยเกินไปหรือไม่ก็มากเกินไปและไม่มีการใส่นโยบายการที่สำคัญ เช่น รับคืนสินค้าเพราะเจ้าของกลัวที่จะต้องรับคืนสินค้า

2.             ความรู้เกี่ยวกับสินค้าที่ตนเองขายเพราะเว็บไซต์ที่ขายของบางเว็บไซต์นั้นผู้ขายไม่มีความเกี่ยวกับของที่ตอนเองขายเมื่อลูกค้ามีการสอบถามเกี่ยวกับตัวสินค้าที่ขายทำให้ไม่สามารถตอบลูกค้าได้ว่าสินค้าที่ขายดีไม่ดีอย่างไรทำให้ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือของลูกค้า

3.             ขาดการวางแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ขายของเกิดขึ้นมาใหม่นั้นมีเพิ่มทุกวันดังนั้นจึงควรมีการประชาสัมพันธ์ เพราะถ้าไม่มีการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์แล้วจะทำให้เว็บไซต์นั้นจะไม่เป็นที่รู้จักและขายสินค้าไม่ได้และควรมีการทำการส่งเสริมการขายควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์เพราะถ้าผู้ซื้อคลิกเข้าไปซื้อแล้วเจอแต่ของเดิมโปรโมชั่นหมดไปแล้วแต่ยังไม่เอาออกไปจะทำให้ขาดความเชื่อมั่นได้

4.             การออกแบบเว็บไซต์ขายสินค้ามักจะออกแบบไปคนทางกับของที่ขายหรือออกแบบมากเกินไปกล่าวใส่สีใส่ตัวการ์ตูนมากเกินไป และออกแบบให้เข้าใจได้ยากทำให้ผู้ซื้อไม่อยากที่จะเข้าซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ และควรออกแบบให้ค้นหาสินค้าได้ง่าย

5.             ระบบการชำระเงินของเว็บไซต์ขายสินค้าในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังคงเป็นการชำระผ่านธนาคารโดยเป็นชำระเงินก่อนแล้วรับของที่หลังซึ่งมักจะทำให้เกิดปัญหาเรื่องจ่ายเงินไปแล้วได้รับสินค้าทำให้เว็บไซต์ไม่เป็นที่น่าเชื่อถือจากผู้คนโดยทั่วไป

6.             อีเมล์ของเจ้าของเว็บเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการซื้อขาย ส่วนใหญ่แล้วเว็บไซต์ขายของนั้นจะใช้อีเมล์ที่เป็นฟรีเมล์ ซึ่งบางเว็บนั้นเป็นเว็บที่ทำขึ้นเองแต่กลับไปใช้ฟรีอีเมล์ เช่น hotmail Gmail yahoo เป็นต้นทั้งที่น่าจะเป็น อาทิเช่นเว็บไซต์www.shoptoyboy.com อีเมล์ที่ใช้ก็ควรเป็น info.shoptoyboy.com

 2.  ถ้าอยากจะให้ระบบการขายสินค้าในรูปแบบ E-commerce .นประเทศไทยประสบความสำเร็จ น.ศ.คิดว่าควรจะต้องประกอบด้วยปัจัยใดบ้าง

ตามคิดของผมแล้วการทำเว็บไซต์ขายสินค้าให้ประสบความสำเร็จได้นั้นควรจะศึกษาข้อมูลของสินค้าและบริการให้ดีก่อนทำการซื้อขายโดยปัจจัยที่น่าจะทำให้ประสบความสำเร็จนั้นมีดังนี้

1.             การนำเสนอสินค้าและบริการที่เหมาะสมแก่ลูกค้าการให้รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าแบบที่เข้าใจได้ง่ายที่สุดและครอบคลุมมากที่สุดและแจกแจ้งรายละเอียดการสั่งซื้อสินค้าหรือการส่งคืนการชำระเงินและอื่นให้แก่ลูกค้าเข้าได้ง่าย

2.             ต้องเข้าใจและรู้เกี่ยวดับสินค้าที่ขายในเว็บไซต์บ้างเพื่อเป็นการบอกรายละเอียดของสินค้าให้แก่ลูกค้าที่ถามมาและจะทำให้เว็บไซต์ของเป็นที่น่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย

3.             ต้องมีการวางแผนการตลาดที่ดีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะขายสินค้าเพื่อที่ขายได้ตรงจุดที่ต้องการขายและการประชาสัมพันธ์สินค้าและเว็บอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เว็บไซต์ไม่ตกหรือหายไปจากโลกออนไลน์และควรมีการจัดการคืนกำไรให้ลูกค้าบางในบางครั้งเพื่อเป็นแรงจูงใจในการซื้อสินค้าของลูกค้าเพื่อเพิ่มยอดขายและกระตุ้นความยากซื้อของลูกค้า

4.             การวางแผนจัดทำเว็บไซต์ขายสินค้าเพื่อที่จะได้ทำเว็บไซต์ที่เหมาะสมแก่การขายสินค้าและบริการการทำเว็บไซต์ให้ดูเตะตาและเข้าใจง่ายเมื่อผู้ซื้อเข้ามาซื้อสินค้าก็สามารถเข้าใจวิธีซื้อขายได้ทันทีและสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ง่าย การใช้ระบบชำระเงินที่เหมาะสมและน่าเชื่อถือเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าและส่งของตามที่กำหนดและสามารถติดตามดูสินค้าได้ว่างตอนสินค้าอยู่ที่ไหน

#3 Social Media & SME Brand Building

Social ในที่นี้หมายถึง สังคมออนไลน์

Media ในที่นี้หมายถึง เนื้อหา เรื่องราว และบทความ

Social Media จึงหมายถึงสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร หรือเขียนเล่า เนื้อหา เรื่องราว ประสบการณ์ บทความ รูปภาพ และวิดีโอ ที่ผู้ใช้เขียนขึ้นเอง ทำขึ้นเอง หรือพบเจอจากสื่ออื่นๆ แล้วนำมาแบ่งปันให้กับผู้อื่นที่อยู่ในเครือข่ายของตน ผ่านทางเว็บไซต์ Social Network ที่ให้บริการบนโลกออนไลน์ ปัจจุบัน การสื่อสารแบบนี้ จะทำผ่านทาง Internet และโทรศัพท์มือถือเท่านั้น


เนื้อหาของ Social Media โดยทั่วไปเปรียบได้หลายรูปแบบ ทั้ง กระดานความคิดเห็น (Discussion boards), เว็บบล็อค (Weblogs), วิกิ (wikis), Podcasts, รูปภาพ และวิดีโอ ส่วนเทคโนโลยีที่รองรับเนื้อหาเหล่านี้ก็รวมถึง เว็บบล็อค (Weblogs), เว็บไซต์แชร์รูปภาพ, เว็บไซต์แชร์วิดีโอ, เว็บบอร์ด, อีเมล์, เว็บไซต์แชร์เพลง, Instant Messaging, Tool ที่ให้บริการ Voice over IP เป็นต้น
MySpace – เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networking





-
Facebook -เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networking





-
YouTube – เว็บไซต์ Social Networking และ แชร์วิดีโอ







SME Brand Building


แนวคิดของการสร้างแบรนด์ภายใน



การสร้างแบรนด์ได้เสมอที่เน้นไปทางคุณลักษณะของแบรนด์ที่แตกต่างของผลิตภัณฑ์ ได้แก่ -ได้แก่ คู่แข่งในตลาด แต่สิ่งที่เป็นหลักละเลยเสมอคือแนวคิดของการสร้างแบรนด์ภายใน พนักงานที่ทำงานในองค์กรจะต้องตระหนักถึงว่าพวกเขาจะเป็นตัวแทนของแบรนด์ที่มีคุณค่าให้กับฐานลูกค้าของ บริษัท ในระยะยาว ความคาดหวังของลูกค้าของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่จำเป็นต้องได้รับความสำคัญสูงสุดเพราะแต่ละ บริษัท ต้องการที่จะบรรลุผลกำไรที่สูงขึ้นและการจับภาพส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น จริยธรรมธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างแบรนด์ การปฏิบัติทางจริยธรรมนำไปใช้โดยพนักงานใน บริษัท ช่วยในการสร้างความไว้วางใจในใจของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับการซื้อในอนาคตของสินค้าชนิดเดียวกัน






1 ระบุเหตุผลเพื่อความเชื่อของคุณ


สัญญาแบรนด์ของคุณจะไม่เกี่ยวข้องถ้าลูกค้าของคุณไม่เชื่อว่า ดังนั้นสัญญาของคุณจะต้องได้รับการสนับสนุนตามเหตุผลต่อการเชื่อว่า นี้จะเพิ่มสารสัญญาและกำหนดความคาดหวังที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้า


ตัวอย่างเช่นผู้ผลิตรถยนต์สัญญาลูกค้าที่มีศักยภาพที่รถ XYZ เป็น "ทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับไดรเวอร์ที่ร้ายแรง." ทำให้ทางเลือกที่ชาญฉลาดอย่างไร เหตุผลที่ลูกค้าควรจะเชื่อคำสัญญานี้หรือไม่?


ที่อยู่คำถามนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพผู้ผลิตสามารถกรอบสัญญาที่มีสองเหตุผลที่จะเชื่อว่า ... สมรรถนะและความปลอดภัย เหล่านี้ด้วยเหตุผลสองประการในสาระสำคัญกำหนด "ทางเลือกที่ชาญฉลาด" และชัดเจนกำหนดความคาดหวังของลูกค้า พวกเขายังให้ บริษัท มีทิศทางที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการออกแบบประสบการณ์ของลูกค้าผ่านทางจุดสัมผัสลูกค้าที่มีตัวตนเช่นคุณสมบัติการออกแบบยานพาหนะ, แคมเปญโฆษณา, วิธีการขายตัวแทนจำหน่ายและกิจกรรมด้านการบริการลูกค้า


2 ระบุจุดสัมผัสลูกค้า


แต่ละขั้นตอนของแต่ละบุคคลในกระบวนการทางธุรกิจของคุณมีจำนวนจุดสัมผัสเมื่อลูกค้ามาติดต่อกับตราสินค้าของคุณ เป้าหมายสูงสุดของคุณคือการมี touchpoint แต่ละเสริมสร้างและเติมเต็มตลาดของคุณสัญญา


เดินผ่านกระบวนการการค้าของคุณ คุณจะสร้างความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร สินค้าที่จะขายได้อย่างไร ลูกค้าของคุณจะใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณได้อย่างไร คุณไม่ให้การสนับสนุนหลังการขายได้อย่างไร


นี้ร่องรอยที่ครอบคลุมของการตลาด, การขายของคุณและกระบวนการให้บริการช่วยให้คุณสามารถสร้างแผนที่ touchpoint ง่ายที่กำหนดประสบการณ์ของลูกค้าที่มีตราสินค้าของคุณ


3 ตรวจสอบจุดสัมผัสมีอิทธิพลมากที่สุด


จุดสัมผัสทั้งหมดไม่ได้สร้างขึ้นเท่ากับ บางคนตามธรรมชาติจะมีบทบาทใหญ่ในการกำหนดประสบการณ์ของลูกค้าของ บริษัท โดยรวม ตัวอย่างเช่นถ้าผลิตภัณฑ์ของคุณเป็นไอศครีมรสชาติเป็นปกติมีความสำคัญมากกว่าการออกแบบแพ็กเกจ ทั้งสองเป็นจุดสัมผัส แต่จะมีผลแตกต่างกันเกี่ยวกับประสบการณ์ของลูกค้าของเราโดยรวม


การตรวจสอบจุดสัมผัสขับขี่ประสบการณ์โดยรวมของลูกค้าองค์กรของคุณสามารถใช้หลากหลายเทคนิคที่หลากหลายจากการวิจัยเชิงปริมาณเพื่อความรู้ของสถ​​าบัน วิธีการที่คุณใช้จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ของคุณ, กระบวนการเชิงพาณิชย์และฐานความรู้ของคุณที่มีอยู่


4 ออกแบบประสบการณ์ที่ดีที่สุด


เมื่อคุณเสร็จสิ้นไปสามขั้นตอนในการสร้างแบรนด์, คุณควรจะสามารถที่จะออกแบบประสบการณ์ของลูกค้าของคุณที่ดีที่สุด


ที่นี่วิธีการสถานที่:


กำหนดวิธีการในการแสดงแต่ละเหตุผลที่ไปเชื่อที่ touchpoint แต่ละคีย์ ตัวอย่างเช่นวิธีที่คุณสามารถเสริมสร้างสมรรถนะ (เหตุผลไปเชื่อว่า) ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายและในแคมเปญการตลาด (จุดสัมผัสที่มีอิทธิพล)?


5 จัดองค์กรที่จะส่งมอบอย่างต่อเนื่องประสบการณ์ที่ดีที่สุด


วิธีการแบบองค์รวมเพื่อจัดองค์กรของคุณอย่างสม่ำเสมอส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดเป็นสิ่งจำเป็น ระบุคนกระบวนการและเครื่องมือที่ไดรฟ์แต่ละ touchpoint สำคัญ


ดูเกินพนักงานที่มีการติดต่อโดยตรงกับลูกค้าของคุณ ผลกระทบของพนักงานที่อยู่เบื้องหลัง-the-ฉากที่เห็นได้ชัดน้อย แต่ไม่น้อยที่สำคัญ ในทำนองเดียวกันผลกระทบของกระบวนการเวิร์กโฟลว์และเครื่องมือ (เช่นระบบเทคโนโลยี) ในประสบการณ์ของลูกค้าอาจจะน้อยกว่าที่ใช้งานง่าย แต่สำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดส่งที่สอดคล้องกัน


ระบุกิจกรรมที่ไม่สอดคล้องกับประสบการณ์ของลูกค้าของคุณจินตนาการ กำหนดวิธีการเพื่อที่อยู่พวกเขาเพื่อให้องค์ประกอบเหล่านี้สามารถนำเข้ามาในการจัดตำแหน่ง


สรุป


ทุกผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณนำออกสู่ตลาดทำให้ประสบการณ์ของลูกค้า มันเป็นประสบการณ์ที่คุณตั้งใจ? ประสบการณ์ที่ไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่คุณได้ทำเพื่อตลาด?


โดยระบุผู้คนกระบวนการและเครื่องมือที่ผลักดันให้ประสบการณ์ของลูกค้าของคุณคุณสามารถออกแบบงานและการควบคุมของคุณเองที่ไม่ซ้ำกันประสบการณ์ที่ดีที่สุด สัญญาแบรนด์ที่คุณทำกับตลาดจะถูกเก็บไว้ในวันและวันออกไปทั่ว touchpoint ลูกค้าทุกคนที่สำคัญการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง






คำศัพท์ 20 คำ


Social Media & SME Brand Building






1. Product Marketing คือ การวางแผนทางการตลาด2


2. Chang of Marketing การเปลี่ยนแปลงของตลาด3


3. Buzz Marketing คือ การตลาดแบบรังผึ้งแตก


4. Referral Marketing คือ การตลาดแบบแนะนำบอกต่อ


5. Involvement คือ การทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับธุรกิจ


6. Path way คือ เส้นทางในการดำเนินงาน


7. Concrete คือ การมีส่วนช่วยในการพัฒนา


8. Reviewer คือ การสะท้อนกลับถึงข้อมูลสินค้าและบริการ


9. Share คือ การแบ่งปัน การบอกต่อ ข้อมูลของสินค้าหรือบริการ


10. Information คือ เป็นข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล และมีการจัดการให้มีความถูกต้อง ทันสมัย และสามารถนำไปใช้งานได้ตามที่ต้องการ

11.customer knowledge management หมายถึง การจัดการความรู้ เกี่ยวกับการวิจัย

12.managing communities of creation หมายถึง ช่างคิดชอบเสนอไอเดีย เอาไอเดียไหม่ ๆ มาให้

13.strategy development หมายถึง แนวทางที่องค์กรใช้เตรียมการสําหรับอนาคตซึ่งอาจจะใช้วิธีการต่างๆ ในการคาดการณ์พยากรณ์ทางเลือก เพื่อช่วยในการพัฒนาองค์กร

14.Share หมายถึง ส่วน ส่วนแบ่ง ส่วนร่วม หุ้นส่วน ใช้ร่วมกัน มีส่วนแบ่ง รับผิดขอบร่วมกันร่วมกันทำ อันนี้เข้าใจกันดีในฐานะที่เป็นลูกแชร์

15.Dialogue หมายถึง เป็นการรับฟังวิธีคิด วิธีการให้คุณค่า ความหมายของคนอื่นต่อสิ่งที่พูด เพื่อเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ละทิ้งสิ่งที่แต่ละคนยึดถือ เพื่อผ่าข้ามพรมแดนแห่งตัวตนไปพร้อมๆกัน

16.Social Network คือ สังคมออนไลน์ที่จะช่วยให้คุณหาเพื่อนบนโลกอินเตอร์เนทได้ง่ายๆ เราสามารถที่จะสร้างพื้นที่ส่วนตัวขึ้นมา เพื่อแนะนำตัวเองได้ เช่นHi5 Friendster , My Space , Face Book , Orkut , Bebo

17.Innovation หมายถึง การนำสิ่งใหม่ ๆ อาจเป็นแนวความคิด หรือ สิ่งประดิษฐ์ใหม่

18.Co-creation หมายถึง การให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการที่จะพัฒนาสินค้า

19.Content is King หมายถึง ทำเว็บ ทำเนื้อหาให้คนอ่าน สื่อสารกับคนที่อยู่อีกฟากหนึ่ง ของ Monitor ที่เปิดหน้า webpage ของเรา เข้ามาอ่านเนื้อหาเรา เป็นชั่วโมงๆ

20.Brand หมายถึง ตราสินค้า ชื่อ ข้อความ สัญลักษณ์หรือรูปแบบหรือสิ่งเหล่านี้รวมกัน เพื่อบ่งชี้ให้เห็นถึงสินค้า หรือบริการของผู้ขายหรือกลุ่มของผู้ขายที่แสดงความแตกต่างจากคู่แข่งขันตราสินค้าหนึ่ง ๆ จะประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน


เขียนโดยsutinan